Skip to content
Gallery
Manual สอน Partner/ลูกค้าลงบัญชีออนไลน์
Manual สอน Partner/ลูกค้าลงบัญชีออนไลน์
More
Share
Explore
Manual สอน Partner/ลูกค้าลงบัญชีออนไลน์

icon picker
สารบัญ ฝั่งผู้เชื่อมต่อ API

รายงานของแต่ละ Market place ใช้ข้อมูลอะไรบ้าง ในการยื่นภาษี PP30
รายงานขาย ของ Lazada
Columeที่สำคัญคือ A, F, I, M, P, Q, AQ, AR, AU, AV, AW, AZ, BA, BN
ตัวอย่างรายงาน OrderAll Lazada.xlsx
⁠
⁠
คอลัม
หมายถึง
บันทีกใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษีใน PEAK
1
Colume A (orderItemId)
รหัสรายการคำสั่งซื้อโดยจำแนกเป็นรายสินค้า
ใส่ที่คำอธิบายในรายการสินค้า
2
Colume F (sellerSku)
รหัสสินค้าของร้านค้า (ข้อมูลในช่องนี้จะต้องตรงกับรหัสสินค้าที่บันทึกในPEAK)
สินค้า/บริการ (รหัสสินค้าต้องตรงกับ PEAK)
3
Colume I (createTime)
วันที่สร้างรายการ (วันที่ผู้ซื้อกดสร้างคำสั่งซื้อ)
วันที่ออกเอกสาร (หากบริษัท ออกใบกำกับวันที่ส่งของออกจากร้านค้า)
4
Colume M (orderNumber)
รหัสรายการคำสั่งซื้อหลัก
อ้างอิงถึง
5
Colume P (deliveredDate)
วันที่จัดส่งสินค้าสำเร็จ
วันที่ออกเอกสาร (หากบริษัท ออกใบกำกับวันที่ผู้ซื้อได้รับสินค้า)
6
Colume Q (customerName)
ชื่อผู้ซื้อ
ชื่อลูกค้า (ผู้ติดต่อ)
7
Colume AQ (taxCode)
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ
ข้อมูลลูกค้า (ผู้ติดต่อ)
8
Colume AR (branchNumber)
สาขา/สำนักงานใหญ่
ข้อมูลลูกค้า (ผู้ติดต่อ)
9
Colume AU (paidPrice)
ค่าสินค้าหลังหักส่วนลด
มูลค่ารวมภาษี (ใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้องของ Colume AV และ AW)
10
Colume AV (unitPrice)
ค่าสินค้าก่อนหักส่วนลด
ราคา/หน่วย
11
Colume AW (sellerDiscountTotal)
ส่วนลดรวม
ส่วนลด/หน่วย
12
Colume AZ (itemName)
ชื่อสินค้า
ใส่ที่คำอธิบายในรายการสินค้า
13
Colume BA (variation)
ลักษณะพิเศษของสินค้า
ใส่ที่คำอธิบายในรายการสินค้า
14
Colume BN (status)
สถานะของคำสั่งซื้อโดยจำแนกตาม Colume A (orderItemId)
แท็ก
There are no rows in this table
⁠
⁠
Loading…
⁠
⁠
รายงานขาย ของ Shopee
Columeที่สำคัญคือ A, B, F, M, N, O, P, Q, S, T, U, V, W, Y, AB, AC, AD, AI, AM, AO
คอลัม
หมายถึง
บันทีกใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษีใน PEAK
1
Colume A (หมายเลขคำสั่งซื้อ)
รหัสคำสั่งซื้อที่ผู้ซื้อสั่งโดย 1 รหัสต่อการสั่ง 1 ครั้ง
ใสข้อมูลในช่องอ้างอิงถึง
2
Colume B (สถานะการสั่งซื้อ)
สถานะการสั่งซื้อว่าอยู่ในขั้นตอนใด
ใส่ในช่องแท็ก
3
Colume F (วันที่ทำการสั่งซื้อ)
วันที่ผู้ซื้อกดสร้างคำสั่งซื้อในแอป
ใส่ในข่อง วันที่ออกเอกสาร (หากบริษัท ออกใบกำกับวันที่ส่งของออกจากร้านค้า)
4
Colume M (เวลาส่งสินค้า)
วันที่จัดส่งสินค้าสำเร็จ
ใส่ในข่อง วันที่ออกเอกสาร (หากบริษัท ออกใบกำกับวันที่ผู้ซื้อได้รับสินค้า)
5
Colume N (เลขอ้างอิง Parent SKU)
รหัสสินค้าของร้านค้า (ข้อมูลในช่องนี้จะต้องตรงกับรหัสสินค้าที่บันทึกในPEAK)
ใส่ในช่อง สินค้า/บริการ (ทั้งนี้แล้วแต่ว่าบริษัทจะใช้เลขสินค้าของตัวเองหรือตาม marketplace)
6
Colume O (ชื่อสินค้า)
ชื่อสินค้า
ใสในช่องคำอธิบาย
7
Colume P (เลขอ้างอิง SKU (SKU Reference No.))
รหัสสินค้าของ Marketplace (ข้อมูลในช่องนี้จะต้องตรงกับรหัสสินค้าที่บันทึกในPEAK)
ใส่ในช่อง สินค้า/บริการ (ทั้งนี้แล้วแต่ว่าบริษัทจะใช้เลขสินค้าของตัวเองหรือตาม marketplace)
8
Colume Q (ชื่อตัวเลือก)
ลักษณะพิเศษของสินค้า
ใสในช่องคำอธิบาย
9
Colume S (ราคาขาย)
ค่าสินค้าก่อนหักส่วนลดที่ร้านค้าให้ ต่อหน่วย
ใส่ในช่อง ราคา/หน่วย ของแต่ละรายการ
10
Colume T (จำนวน)
จำนวนสินค้า
จำนวน
11
Colume U (ราคาขายสุทธิ)
รวมสินค้าก่อนหักส่วนลดที่ร้านค้าให้
มูลค่ารวมภาษี (ใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้องของ Colume S และ T)
12
Colume V (ส่วนลดจาก Shopee)
เป็นส่วนลดที่ Shopee ให้ผู้ซื้อ โดยจะจ่ายให้แก่ร้านค้า ที่เข้าร่วมแคมเปญ จึงมองเป็น รายได้จากการส่งเสริมการขายของร้านค้า (Rebate)
บันทึกเป็นรายได้อื่น (Rebate) ไม่มี Vat
13
Colume W (โค้ดส่วนลดชำระโดยผู้ขาย)
ส่วนลดที่ร้านค้าให้แก้ผู้ซื้อโดยตรง (ไม่จำแนกตามรายการสินค้าดังนั้นจึงต้องบันทึกในช่อง มูลค่าส่วนลดรวมเพื่อให้ระบบไป Allocation ส่วนลดหักออกจากรายได้ของแต่ละสินค้า)
ใส่ในช่อง สรุปข้อมูล --> มูลค่าส่วนลดรวม
14
Colume Y (โค้ดส่วนลดชำระโดย Shopee)
ส่วนลดที่ Shopee ให้แก่ผู้ซื้อโดยตรง ช่องนี้ใช้แค่กระทบยอดดูความถูกต้องเฉย ๆ
ใช้สำหรับกระทบยอดเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง (ไม่ต้องบันทึกลง RT)
15
Colume AB (ส่วนลด bundle deal ชำระโดยผู้ขาย)
ส่วนลดที่ร้านค้าให้แก้ผู้ซื้อโดยตรง (ไม่จำแนกตามรายการสินค้าดังนั้นจึงต้องบันทึกในช่อง มูลค่าส่วนลดรวมเพื่อให้ระบบไป Allocation ส่วนลดหักออกจากรายได้ของแต่ละสินค้า)
ใส่ในช่อง สรุปข้อมูล --> มูลค่าส่วนลดรวม
16
Colume AC (ส่วนลด bundle deal ชำระโดย Shopee)
ส่วนลดที่ Shopee ให้แก่ผู้ซื้อโดยตรง ช่องนี้ใช้แค่กระทบยอดดูความถูกต้องเฉย ๆ
ใช้สำหรับกระทบยอดเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง (ไม่ต้องบันทึกลง RT)
17
Colume AD (ส่วนลดจากการใช้เหรียญ)
ส่วนลดที่ Shopee ให้แก่ผู้ซื้อโดยตรง ช่องนี้ใช้แค่กระทบยอดดูความถูกต้องเฉย ๆ (ช่องนี้จะต้องเอายอดมา หาร 100 เพราะว่า 100 coin = 1 บาท)
ใช้สำหรับกระทบยอดเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง (ไม่ต้องบันทึกลง RT)
18
Colume AI (ค่าจัดส่งที่ชำระโดยผู้ซื้อ)
ค่าส่งสินค้าที่ผู้ซื้อจ่าย จะต้องรับรู้เป็นส่วนหนึ่งของรายได้จากการขายสินค้า รายการนี้จึงต้องมี Vat ด้วย
บันทึกเป็นรายได้อื่น (รายได้จากค่าขนส่งที่ชำระโดยผู้ชื้อ)
19
Colume AM (จำนวนเงินทั้งหมด)
ส่วนลดที่ Shopee ให้แก่ผู้ซื้อโดยตรง ช่องนี้ใช้แค่กระทบยอดดูความถูกต้องเฉย ๆ
ใช้สำหรับกระทบยอดเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง (ไม่ต้องบันทึกลง RT) โดยนำช่อง AM+AD+AC+Y จะได้รายได้ที่ต้องยืน Vat ของแต่ละ หมายเลขคำสั่งซื้อ
20
Colume AO (ชื่อผู้รับ)
ชื่อผู้ซื้อ
ชื่อลูกค้า (ผู้ติดต่อ)
There are no rows in this table
⁠
⁠
Loading…
⁠
⁠
เอกสารที่ใช้ในการทำ WHT
เอกสารที่ใช้ในการทำสำหรับการทำ WHT Shopee คือ
1.Shopee Express-RCT ซึ่งจะเป็นค่าขนส่ง จะต้องหัก ณ ที่จ่าย 1%
ตัวอย่างเอกสาร
Shopee Express-RCT.pdf
61.2 kB
⁠
⁠
2.Shopee-TIV ซึ่งจะเป็นค่าบริการ Marketplace จะต้องหัก ณ ที่จ่าย 3%
ตัวอย่างเอกสาร
Shopee-TIV.pdf
64.9 kB
⁠
⁠
เอกสารที่ใช้ในการทำสำหรับการทำ WHT Lazada
1.Shipping Fee Receipt (Lazada Express Limited) ซึ่งเป็นค่าขนส่ง จะต้องหัก ณ ที่จ่าย 1% (ทั้งนี้หากได้รับเป็นเอกสาร Shipping Fee Credit Receipt ให้ปฏิบัติตามวิธีตามคลิปนี้
https://drive.google.com/file/d/1SU3Svhe_UuyCh3cXh2ImCvXVKQTXptB4/view?usp=sharing
⁠
)
ตัวอย่างเอกสาร
Shipping Fee Receipt (Lazada Express Limited).pdf
35.7 kB
⁠
⁠
Shipping Fee Credit Receipt (Lazada Express Limited).pdf
34.6 kB
⁠
⁠
2.TAX INVOICE / RECEIPT (Lazada Limited (Head Office) และ Lazada Solution) ซึ่งเป็นค่าบริการ Marketplace จะต้องหัก ณ ที่จ่าย 3%
ตัวอย่างเอกสาร
TAX INVOICE RECEIPT (Lazada Limited (Head Office).pdf
27.9 kB
⁠
⁠
เอกสารใบกำกับภาษีมีกี่ประเภท และต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง
ใบกำกับภาษีมีกี่ประเภทสามารถศึกษาได้ที่
https://bit.ly/3IJPAiM
⁠
⁠
ใบกำกับภาษีเต็มรูปต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
1. เห็นคำว่า “ใบกำกับภาษี” ชัดเจน
2. มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี รวมถึงชื่อและที่อยู่ของผู้ขาย
3. ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อ
4. เลขที่ใบกำกับภาษี
5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และจำนวนเงิน
6. แยกแสดงจำนวน VAT แยกให้เห็นชัดเจน
7. วัน เดือน ปี ที่ออก
8. ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด บังคับใช้กับผู้ประกอบการ
8.1 ระบุ “สำนักงานใหญ่”หรือ“สาขาที่…..” ของผู้ขาย
8.2 เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ (โดยเฉพาะผู้ซื้อที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม)
8.3 ระบุ “สำนักงานใหญ่”หรือ“สาขาที่…” ของผู้ซื้อ
(อ้างอิงจาก
https://bit.ly/3DOnBL0
⁠
)


Want to print your doc?
This is not the way.
Try clicking the ⋯ next to your doc name or using a keyboard shortcut (
CtrlP
) instead.